TOURNA -เว็บบอร์ด2

คุณกำลังอยู่ที่ : หน้าหลักเว็บบอร์ด » TOURNA PRODUCTS » STRINGS » เปรียบเทียบคุณสมบัติของเอ็นแต่ละประเภท

ผู้ตั้งกระทู้	0 0 30/10/2019 @ 21:05:13
Pete	ประเภทของเอ็นเทนนิส ขอรวบรวมข้อมูลคุณสมบัติโดยทั่วไปของเอ็นเทนนิส และทำเป็นตารางเปรียบเทียบกันเพื่อ ประโยชน์เล็กน้อยๆของคนรักเทนนิสครับ 1) [font=verdana, sans-serif]Natural Gut [/font] [font=verdana, sans-serif]บางคนเรียกเอ็นแท้ บางคนก็เรียกสั้นๆเอ็น Gut [/font][font="angsana new", serif]ทำจากไส้วัว [/font][font=verdana, sans-serif]จะเรียกได้ว่าเอ็นเทนนิสที่ดีสุด[/font][font=verdana, sans-serif] [/font] [font=verdana, sans-serif]ให้ความรู้สึกในการเล่น (Playability) มากสุด [/font] [font=verdana, sans-serif]เอ็น[/font][font="angsana new", serif]มีความยืดหยุ่นสูงมาก อุ้มลูกดี [/font] [font="angsana new", serif]ช่วยลดการบาดเจ็บ มีเพาเวอร์มาก [/font] [font="angsana new", serif]ราคาสูง[/font] [font="angsana new", serif]ความร้อนและความชื้นจะทำให้เอ็นมีอายุสั้นลง[/font] [font="angsana new", serif]ถ้าขึ้น Hybrid ใช้เป็นแนวนอน[/font] 2) [font=verdana, sans-serif]Synthetic Gut[/font] เป็นเอ็นสังเคราะห์ทำจากไนลอนเป็นแกนกลาง และมีชั้นนอก หุ้ม 1-2 ชั้นและเคลือบเรซินเพื่อให้มีความยืดหยุ่น [font="angsana new", serif]เหมือน เอ็นแท้ แต่ราคาถูกและทนทานกว่า[/font] - เป็นเอ็นระดับกลางๆ เหมาะสำหรับทุกๆ คน - ความนุ่มและ Power กลางๆ - รักษาความตึงได้ดีกว่า polyหรือ kevlar แต่สปินน้อยกว่า 3) Multifulament หรือที่เรียกกันว่าเอ็น Multi เป็นเอ็นที่มีโครงสร้างเป็นเส้นใยเล็กๆเรียง ตัวด้วย micro synthetic fibers นับร้อยนับพันเส้นประกอบกันเป็นเส้นเอ็น โดยเป็นเอ็นที่ทำเลียนแบบ Natural Gut ซึ่งจะให้ความรู้สึกในการตีที่นุ่มนวล - เอ็น มีความนุ่มมาก มีเพาเวอร์ ตีสปินได้ในระดับพอใช้ แต่ถ้าต้องการเน้น Spin จริงๆ ก็อาจจะต้องหลีกเลี่ยงเพราะจะขาดง่าย - ให้ความรุ้สึกใกล้เคียงเอ็น Natural Gut แต่ ราคาถูกกว่า - นุ่มและยืดหยุ่นกว่า Synthetic Gut - เหมาะสำหรับผู้ที่มักมีอาการบาดเจ็บที่แขน (แต่ไม่ต้องการใช้เอ็นที่เป็น Natural gut ที่มีราคาสูง) - ข้อเสียคือ ธรรมชาติของเอ็นจะโย้ง่าย เลื่อนไปมา ขาดง่าย เสีย tension มากกว่า synthetic gut - เอ็น Muti ของ Tourna ที่มีชื่อเสียงคือ Quasi Gut , Quasi Gut Armor , Irradiated 4) Polyester เราได้ยินเขาเรียกเอ็นโพลีกันบ่อยๆ เอ็นโพลีเป็นเอ็นแบบแกนเดี่ยว (monofilament) ตรงกลางและมีปลอกหุ้มชั้นนอก เพื่อเสริมความทนทาน ให้ดีขึ้น ทำจาก Polyester สมันก่อนเอ็นโพลีจะค่อนข้างแข็งมากและความตึงลดลงเร็วมาก (Tension Loss) - เป็นเอ็นที่ทนมาก Spin ดี และดีดตัวกลับได้เร็วทำให้ เอ็นไม่โย้ง่ายหรือถ่างออก นักกีฬาปัจจุบันใช้เอ็น Poly นี้เยอะ เราจึงไม่ค่อยเห็นภาพที่นักกีฬามาจัดเอ็น เหมือนสมัย Lleyton Hewitt - ไม่ได้ให้หรือเด่นในเรื่องของ power และ feeling มากนัก - แข็งกว่าและให้พาวเวอร์น้อยกว่าเอ็นแท้ (Natural Gut) มาก - เหมาะกับผู้เล่นที่มีวงสวิงที่แน่นอนและรวดเร็ว ตีลูกหนักหน่วง และต้องการ การคอนโทรล - มีปัญหาบ้างกับความตึงของเอ็นที่หายไป หลังจากขึ้นเอ็นใหม่และตีไปซักระยะ - มีราคาสูง - เหมาะสำหรับคนที่ทำเอ็นขาดเป็นประจำ - ไม่แนะนำสำหรับผู้ที่เพิ่งหัดเล่นหรือผู้ที่มีปัญหาเรื่องแขน เพราะเอ็นแข็ง - เกืดเอ็นตายง่ายถึงแม้เอ็นยังไม่ขาด คือหมดคุณสมบัติ เวลาตีจะรู้สึกกระด้าง และทำให้บาดเจ็บได้ง่าย การสังเกตเอ็นตาย นอกจากความรู้สึกว่าตีแล้วรู้สึกกระด้างแล้ว ดูตรงที่เอ็นเริ่มถ่างออก ไม่กลับเข้าที่ - อายุของประสิทธิภาพสั้นครับ สั้นกว่าพวก Synthetic Gut ที่ราคาถูกกว่า - หากขึ้นแบบ ไฮบริดกับ Synthetic GUt โดยใช้เอ็น Poly เป็นเส้นตั้งและSynthrtic Gut เป็น เส้นนอน จะเพิ่มความนุ่มนวลและรักษาความคงทน - เอ็น Poly รุ่นใหม่ ๆ ในปัจจุบันก็มีคุณสมบัติดีขึ้น มีความนุ่มนวลมากขึ้น ลดการบาดเจ็บกันไปได้มากครับ แต่อย่างไรก็ตามก็ไม่ควรขึ้นตึงเกินไป เอ็น Tourna แนะนำให้ขึ้นสูงสุดอย่าเกิน 55 lbs ถ้าเกินแล้วนอกจากจะลดความนุ่มแล้วยังทำให้ความยืดหยุ่นคืนตัวของเอ็นลดลงและเกิดเอ็นตายเร็วขึ้น - เอ็น Poly ที่ยอดนิยมได้แก่ Poly ของ Luxilon ไม่ว่าจะเป็น Alu Power, Alu Power Rough - เอ็น Poly ของ Tourna ได้แก่ ตระกูล Big Hitter ได้แก่ Blue, Blue Rough, Silver, Silver Rough และตัวที่ Spin สูงสุด Black 7 5) Kevlar - เป็นเอ็นที่ทนทานที่สุดและยืดหยุ่นน้อยสุดในบรรดาเอ็นเทนนิส มีความคงตัวสำหรับความตึงต่ำสุด ออกแบบมาเพื่อความทนทานโดยเฉพาะ เหนียว ขาดยาก แต่ก็มีโอกาสเสี่ยงกับการบาดเจ็บได้ง่าย เอ็นมีความแข็งหรือกระด้าง ดังนั้นมักจะใช้เป็น Hybrid คู่กับเอ็นอื่น เช่น Synthetic Gut โดยให้ Kevlarตั้ง-Synthetic Gut นอน เพื่อลดความกระด้างของหน้าไม้ จึง แนะนำให้ลดความตึงลงประมาณ 10% เพื่อชดเชยกับความกระด้างของเอ็น kevlar kevlar เป็นเอ็นที่เสีย tension มากที่สุดในบรรดาเอ็นทุกชนิด และ low power

เหตุผลที่แจ้งลบ :